วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เมื่อมวลมหาประชาชนใช้ยุทธวิธีสันติ อหิงสา ติในสิ่งที่ควรติ ชมในสิ่งที่ควรชม(4)

การต่อสู้ด้วยปัญญา สันติ อหิงสา มีการระดมรวมพลจำนวนมากเป็นคราวๆ สลับกับกลุ่มเล็กที่สามารถยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ชุมนุม ยาวนานเท่าไหร่ คนชั่วจะยิ่งทุกข์ทรมานยิ่งกว่าถูกฆ่าให้ตายเท่านั้นๆ เพราะจะถูกกฎหมาย กฎแห่งกรรม และมาตรการทางสังคมคว่ำบาตรประณามประจานทุกสื่อทุกรูปแบบ ทุกๆวันอย่างยาวนาน เขาต้องรับความรู้สึกทุกข์ทรมานจิตใจทุกๆวันอย่างยาวนานตอนเป็นๆของชีวิต เพราะพระพุทธเจ้าพบว่าธรรมชาติของคนที่ยังมีกิเลสเมื่อได้รับผัสสะ(เหตุการณ์ที่มากระทบ)ที่ตนไม่ต้องการหรือชิงชังรังเกียจ ก็จะรู้สึกทุกข์ใจทันทีส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมเจ็บป่วยด้วย คนในระบอบทักษิณมีกิเลสต้องการอำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ การชื่นชม ยอมรับ เคารพ เอาใจ ไม่อยากได้รับการประณาม ประจาน ติติง ด่าว่า นินทา ดูถูก ดูแคลน เหยียดหยาม ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง เมื่อได้รับสภาพด้านลบดังกล่าวก็จะรู้สึกทุกข์ทรมานทุรนทุรายอึดอัดหดหู่ซึมเศร้าหม่นหมองในจิตใจ แม้แค่คนมาร่วมชุมนุมต่อต้านเขาโดยไม่ได้พูดอะไร ก็ทำให้เขาทุกข์ทรมานจะกระอักเลือดตายอยู่แล้วเพราะเขาไม่ชอบสิ่งนั้น แค่คนหนึ่งคนทำพฤติกรรมด้านลบดังกล่าวกับใครที่ยังมีกิเลสอยู่ก็จะรู้สึกทุกข์ใจ แต่นี่คนนับพันหมื่นแสนล้าน ประณามทุกๆวันอย่างยาวนาน จะทุกข์ทรมานสะสมมากขนาดไหน เป็นนรกที่ต้องรับตลอดเวลาอย่างยาวนาน ทั้งในชาตินี้และชาติอื่นๆสืบไป ที่ระบอบทักษิณ เช่น คุณยิ่งลักษณ์ เป็นต้น พยายามแสดงท่าทางยิ้มๆร่าเริงเบิกบานต่อหน้าสื่อหรือสาธารณะชน นั้นเป็นการเก็บซ่อนอาการไม่ให้คนรู้ว่าทุกข์ทรมานเท่านั้น เพราะถ้าคนที่ไม่ชอบเขารู้ว่าเขาทุกข์ทรมานสิ่งใดก็จะทำสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น เขาก็จะยิ่งทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น จึงกลบด้วยสีหน้าร่าเริงเบิกบาน เหมือนนักมวยที่เก็บอาการทั้งๆที่ข้างในบอบช้ำสุดจะบอบช้ำสุดจะทนแล้ว เขาหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้ และหลอกผู้มีปัญญาที่รู้สัจจะไม่ได้ สังเกตได้จาก เขาบอกว่ายินดีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แสดงว่าเขามีความสุขที่ได้ฟังความเห็นของประชาชน แต่เขาพูดว่าหยุดชุมนุมเถอะค่ะ หยุดชุมนุมเถอะค่ะ แปลว่าอะไร แปลว่ามีความทุกข์ที่ประชาชนออกมาชุมนุม แสดงว่ามาตรการที่ประชาชนทำนั้นได้ผลแล้ว อีกตัวชี้วัดหนึ่งคือเขาให้คนของเขาสั่งย้ายนายตำรวจที่ไม่สามารถขัดขวางประชาชนที่ไปประณามเขาที่บ้านของเขา เห็นได้ชัดเลยว่าประชาชนทำกิจกรรมนี้มีผลให้เขาเป็นทุกข์ ประชาชนคนดีส่วนหนึ่งไม่รู้ว่าตนเองทำงานได้ผลจึงร้อนใจทุกข์ใจ อีกกรณีหนึ่ง มีสาวทอมไปเป่านกหวีดใส่ เขาก็ทำท่าทางพูดดีด้วย แต่พอหันหลังให้เขาก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจทุกข์ใจ เป็นต้น
  เมื่อมวลมหาประชาชนใช้ยุทธวิธีสันติ อหิงสา ติในสิ่งที่ควรติ ชมในสิ่งที่ควรชม ใช้มาตรการทางสังคมและมาตรการทางกฎหมาย คดีที่รอศาลและองค์กรอิสระเชือดเยอะมาก แล้วเขาก็รู้ว่าเขาสู้ไม่ได้ เขาจึงต้องการให้มีการเลือกตั้งในสภาพระบบที่เขาสามารถโกงการเลือกตั้งได้ให้เร็วที่สุด เพราะว่าจะได้รีบกลับมาออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เร็วไม่เช่นนั้นเขาต้องทรมานอยู่อย่างนั้น  คนมีกิเลส มีโลกธรรม จะไม่อยากถูกติ อยากให้คนเห็นด้วย อยากให้คนเห็นภาพสวยๆ ไม่อยากถูกติถูกด่า อยากได้การเอาใจ อยากได้ทรัพย์สมบัติมากๆ  ดังนั้นการออกมาของประชาชน แม้ไม่ต้องพูดอะไร แค่ออกมาเฉยๆว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเขาก็จะกระอักเลือดตายอยู่แล้ว  ยิ่งพูดติ หรือประณามเขาด้วย เขายิ่งทรมานยิ่งกว่าถูกฆ่าอีก เพราะถ้าฆ่าเขาเขาก็แค่ไม่รู้สึกอะไร ไม่ได้ยินคำประณามเหล่านั้น ที่เหลือก็จะไปรับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสอย่างยาวนานในภพชาติอื่นๆสืบไป การไม่ตายแต่ถูกประณาม ทุกข์ทรมานยิ่งกว่าการถูกตัดหัวเสียบประจาน ถูกประณามทั้งชีวิตไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ การสร้างให้คนเกลียดก็มีอันตรายตลอดเวลา เขามีเงินตั้งมากมายแต่ไม่สามารถโผล่หัวออกไปตามที่ต่างๆได้อย่างอิสระ เพราะเขาจะกังวลว่าอาจถูกคนด่า คนว่า เผลอๆอาจถูกคนที่ไม่พอใจที่โกรธเกลียดแค้นในส่วนที่ทนไม่ได้ปองร้ายเข่นฆ่าเอาได้ เพราะคนบางส่วนไม่ได้วางใจที่จะให้อภัยได้ ซึ่งต่างจากเราที่ให้อภัยได้ คนที่วางใจไม่ได้ก็มีจริงบุคคลเหล่านั้นอาจปองร้ายเขาได้ตลอดเวลา เขาจึงไม่สามารถอยู่ที่ใดที่หนึ่งอย่างเปิดเผยได้ ต้องหลบๆซ่อนๆ โผล่แว๊บนึงก็ต้องหลบ เหมือนสัมภเวสีปีศาจตกนรกทุกข์ทรมานไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ชีวิตเขาจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ไม่มีความสุขที่ยั่งยืนเลย
ในส่วนของเรานั้นเป็นนักปฏิบัติธรรมเรามีเมตตาอุเบกขาไม่ได้มีความโกรธเขา และเราเข้าใจเชื่อมั่นเรื่องกรรมว่า คนที่ทำชั่วนั้น ต่อให้ไม่มีใครทำร้ายเขา วิบากกรรมก็จะทำร้ายเขาเองด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ภัยพิบัติธรรมชาติ หรือภัยอื่นๆ ในชาตินี้หรือชาติอื่นๆสืบไป เราจึงไม่จำเป็นต้องไปเข่นฆ่าทำร้ายเขาให้เราเป็นบาปเปล่าๆ และส่งกำลังใจกำลังปัญญาแห่งสัจจะถึงพี่น้องร่วมโลกว่าอย่าเข่นฆ่าเบียดทำร้ายใครเลย เป็นบาปกับตัวเองเปล่าๆ ใช้กฎหมาย กฎสังคม และกฎแห่งกรรม เป็นสัจจะที่จริงที่สุดยุติธรรมที่สุดและดีที่สุดแล้ว เป็นชัยชนะสูงสุดที่แท้จริงของมวลมหาประชาชนคนดี
ผมขอคารวะและขอขอบพระคุณในพลังความดีกล้าหาญเสียสละของพี่น้องมวลมหาประชาชนทุกท่าน ทุกกลุ่ม ทุกเวที โดยเฉพาะพี่น้องที่ไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมที่ชุมนุมเผชิญหน้ากับตำรวจ ที่ท่านไม่หลงกลระบอบทักษิณที่สั่งการหรือปลุกปั่นให้ตำรวจบางส่วนใช้อาวุธแก๊สน้ำตากระสุนยางกระสุนจริงด้วยความอำมหิตโหดร้ายที่รุนแรงเกินควรกับประชาชนตามลำดับจากหนักไปหาเบา อย่างน่าโมโหโกรธเกลียดแค้นเคืองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผู้ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรมที่ประสบหรือรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าว แต่พี่น้องประชาชนก็ไม่ได้มุทะลุใช้ความรุนแรงทุบตีไม่ได้ใช้ปืนระเบิดการเผาหรืออาวุธต่างๆหรือวิธีการต่างๆที่รุนแรงเข่นฆ่าตำรวจ เนี่องจากทุกกลุ่มทุกเวทีหล่อหลอมการต่อสู้แบบสันติอหิงสามาโดยตลอดอย่างได้ผล จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ใช้ความสงบกับหลบเลี่ยง ซึ่งพื้นฐานพี่น้องส่วนใหญ่ที่ประจันหน้ากับตำรวจเป็นนักสู้สายบู้ไม่ใช่สายบุ๋นและไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม ถ้าไม่ฝึกฝนการต่อสู้ด้วยสันติอหิงสามาก่อน ต้องเกิดการใช้ความรุนแรงตอบโต้ตำรวจอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นก็ตามพระพุทธเจ้าตรัสว่าโลกนี้พร่องอยู่เป็นนิจ จึงมีพี่น้องประชาชนบางส่วนเพียงเล็กน้อยที่ทนไม่ได้ จึงขว้างแก๊สน้ำตาบางส่วนที่ตำรวจยิงมาหรือก้อนหินที่พอหาได้หรือยิงหนังสติ๊กกลับคืนไปบ้าง ซึ่งก็รุนแรงน้อยกว่าที่ตำรวจทำกับประชาชนอย่างเทียบกันไม่ได้ เป็นความเจริญอย่างมากของสายบู้ที่สามารถลดความรุนแรงลงได้อย่างมากขนาดนั้น ซึ่งจะสามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าสูงสุดต่อไปได้คือถึงขั้นไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงใดๆเลย เพราะผู้ใช้ความรุนแรงมากกว่าย่อมแพ้มากกว่าเนื่องจากจะแสดงออกถึงความเลวอำมหิตโหดร้ายในการสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินชัดเจนมากกว่า ก็จะผิดกฎหมาย ผิดกฎสังคม ผิดกฎแห่งกรรม ผิดศีลธรรม น่ารังเกียจมากกว่า คนก็จะไม่สนับสนุน ไม่อยู่ด้วย ไม่เอาด้วย ไม่เห็นด้วย แล้วหันมาอยู่กับฝ่ายที่สงบไม่รุนแรง ฝ่ายไม่รุนแรงก็จะชนะ

ดังนั้นเมื่อไม่สามารถห้ามการใช้ความรุนแรงของฝ่ายตรงกันข้ามได้ ผู้มีปัญญาแท้จะไม่ใช้ความรุนแรง จะใช้วิธีสงบหรือหลบเลี่ยงให้ปลอดภัย โดยปล่อยให้ฝ่ายตรงกันข้ามแสดงความรุนแรงอันคือความชั่วที่ชัดเจนแต่ฝ่ายเดียว เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามขายขี้หน้าตัวเองและพ่ายแพ้ไปฝ่ายเดียว ผู้ใช้ความรุนแรงน้อยจึงแพ้น้อย ผู้ไม่ใช้ความรุนแรงเลยจึงไม่แพ้เลยชนะอย่างเดียว ชนะความเลวร้ายรุนแรงในตน ชนะความทุกข์ ชนะความไม่ปลอดภัย ทำให้ตนเองและผู้อื่นปลอดภัย ตัวชี้วัดว่าใครพัฒนาจิตใจได้เข้มแข็งดีงามที่สุดจนสามารถเอาชนะความโกรธได้ ก็คือผู้ชนะความรุนแรงในตนเองได้ จึงไม่ใช้ความรุนแรง ทำควบคู่กับการต่อสู้ด้วยกฎหมาย กฎสังคม และกฎแห่งกรรม ผู้นั้นก็จะนำชัยชนะคือความผาสุกที่แท้จริงมาสู่ตนเองและผองชน เป็นชัยชนะที่ประเสริฐที่สุดในโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น